ไปให้ครบ จบที่เขาสก! - Anurak Lodge

การเดินทางมาท่องเที่ยวที่อนุรักษ์ลอดจ์ของเรานั้น หากขับรถมาเอง จะใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 9 ชั่วโมงจากจังหวัดกรุงเทพมหานคร แต่เราอยากจะขอบอกว่า เป็นเส้นทางที่คุ้มค่าเหมาะสมแก่การขับรถเที่ยวมาก เพราะมีจุดต่างๆที่น่าสนใจให้แวะพักตลอดทาง โดยเฉพาะสำหรับทุกท่านที่ชอบธรรมชาติ ระหว่างทางในการเดินทางเข้าจังหวัดสุราษฎร์ธานีนั้นผ่านอุทยานแห่งชาติถึง 5 แห่ง!

เริ่มต้นด้วย 2ชั่วโมงครึ่ง จากกรุงเทพมหานคร กับ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งเป็นอุทยานแห่งชาติที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศไทย และเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มป่าแก่งกระจานที่ประเทศไทยได้นำเสนอเพื่อขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก พื้นที่ส่วนใหญ่ของอุทยานฯ เป็นภูเขาสลับซับซ้อนอยู่ในเทือกเขาตะนาวศรี สภาพภูมิประเทศเป็นป่าดิบชื้น ยอดเขาที่สูงที่สุดในอุทยานฯ คือยอดเขางะงันนิกยวงตอง อยู่ในเขตรอยต่อประเทศพม่าและไทย ไฮไลท์ของอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานมีมากมาย ไม่ว่าจะเป็น สำหรับเส้นทางดูนก ผีเสื้อ เขาพะเนินทุ่ง และน้ำตกทอทิพย์ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานได้รับการจัดให้เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวมหัศจรรย์เมืองไทย ประจำเดือนเมษายน

ต่อมาด้วย 3 ชั่วโมงครึ่ง กับจังหวัดหาดสวยประจวบคีรีขันธ์ อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอดจัดเป็นอุทยานแห่งชาติประเภทชายฝั่งผสมผสานหมู่เกาะในทะเลแห่งแรกของไทย ภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นทิวเขาหินปูนสลับซับซ้อนเรียงรายตามแนวทิศเหนือ-ใต้ ยาวประมาณ 30 กิโลเมตร และมีเกาะน้อยใหญ่อยู่รวม 6 เกาะ มีจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจคือ ทุ่งสามร้อยยอด พื้นที่ราบลุ่มกว้างใหญ่ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ, ถ้ำพระยานคร ถ้ำขนาดใหญ่ที่บริเวณเพดานถ้ำมีปล่องให้แสงสว่างลอดเข้าไปมอง เห็นความสวยงาม มีจุดเด่นคือ พลับพลาแบบจตุรมุข ชื่อว่า “พระที่นั่งคูหาหาสน์”, และเขาแดง จุดชมธรรมชาติที่คุณจะได้เห็นสัตว์ป่าน้อยใหญ่ เช่นเลียงผาเดินและเล็มใบไม้เหนือหุบเขามรณะ นกออกบินร่อนหาอาหาร และอาจจะพบลิงแสมหรือค่างแว่นโหนตัวเล่นบนยอดไม้

4 ชั่วโมงกว่า ณ ครึ่งทางของการเดินทาง แวะพักที่ อุทยานแห่งชาติน้ำตกห้วยยาง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งตั้งอยู่บนเทือกเขาตะนาวศรี ป่าที่พบเป็นป่าเบญจพรรณ ป่าดิบเขา และป่าดิบแล้ง ลักษณะดินเป็นดินร่วนปนทราย และหินเป็นหินแกรนิตและหินลูกรัง นอกจากนี้ เขตอุทยานเป็นพื้นที่ให้กำเนิดต้นน้ำหลายสาย ได้แก่ คลองอ่างทอง คลองแก่ง คลองทับสะแก คลองจะกระ คลองไข่เน่า คลองตาเกล็ด คลองห้วยยาง คลองห้วยมา และคลองหินจวง  จะมีจุดท่องเที่ยวชนิดน้ำตกให้เข้าชมหลายแห่งเช่น น้ำตกเขาล้าน เป็นน้ำตก 5 ชั้น บางชั้นมีแอ่งน้ำที่สามารถลงเล่นได้, น้ำตกขาอ่อน (ทับมอญ) เป็นน้ำตกขนาดเล็ก 9 ชั้น มีความสูงเกินกว่า 10 เมตร มีแอ่งน้ำตามชั้น สภาพทางเดินขึ้นน้ำตกค่อนข้างชุ่มชื้น, น้ำตกห้วยยาง เป็นน้ำตกที่ไหลลงจากยอดเขาหลวง มีทั้งหมด 7 ชั้น โดยในชั้นที่ 4 มีทางแยกขึ้นสู่จุดชมดวงอาทิตย์ขึ้น ส่วนในชั้นที่ 5 มองเห็นสายน้ำตกจากหน้าผาสูงประมาณ 15 เมตร อีกทั้งยังมี ยอดเขาหลวง ซึ่งเป็นจุดที่สูงที่สุดในอุทยาน และเป็นแนวเขตธรรมชาติที่ใช้แบ่งเขตประเทศไทยและประเทศพม่า

ชั้วโมงที่7เกือบ8 เราจะหยุดแวะที่ อุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว จังหวัดระนอง ซึ่งมีลักษณะภูมิประเทศเป็นเทือกเขาสลับซับซ้อน มีสันเขานมสาวเป็นเส้นแบ่งเขตระหว่างทั้งสองจังหวัด มีแหล่งท่องเที่ยวคือ น้ำตกคลองเพรา เป็นน้ำตกขนาดใหญ่จำนวน 5 ชั้น มีผาสูงร่วม 40 เมตร, น้ำตกหงาว สายน้ำมาจากบึงมรกตซึ่งในอดีตมีการทำเหมืองแร่, โครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพบ่อน้ำแร่ร้อนพรรั้ง เกิดในหุบเขาริมคลองพรรั้ง อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 60 เมตร มีบ่อน้ำแร่ร้อน 8 บ่อ และมีตาน้ำ 13 ตาน้ำอยู่ใกล้ลำธาร หากเหนื่อยล้าจากการขับรถเดินทาง เราขอแนะนำให้แวะพักแช่น้ำร้อนแก้เมื่อยที่นี่ครับ

ถึงจังหวัดสุราษฏร์ธานีแล้ว แต่ก่อนที่เราจะเดินทางต่อไปยังเขาสก ที่ปากทางเข้าจังหวัดคุณจะผ่าน อุทยานแห่งชาติแก่งกรุง ซึ่งเป็นอุทยานที่มีสภาพป่าเป็นเทือกเขาสลับซับซ้อนและเป็นป่าต้นน้ำลำธารที่หล่อเลี้ยงชาวจังหวัดสุราษฎร์ธานีและจังหวัดชุมพร สถานที่น่ารื่นรมย์สำหรับพักผ่อนหย่อนใจมากมาย เช่น ผาหนุมาน เป็นจุดชมวิวภายในอุทยานฯ บนยอดเขาบางจำ เส้นทางที่ขึ้นไปยังจุดชมวิวเป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติ, น้ำตกบางหอย มี 3 ชั้น และมีน้ำตลอดปี, น้ำตกบางจำ เป็นน้ำตกขนาดกลาง มีน้ำมากฤดูฝน, น้ำตกคลองพา เป็นน้ำตกขนาดกลาง มี 7 ชั้น มีน้ำมากตลอดปี, บ่อน้ำร้อน บริเวณรอบบ่อเป็นดินโปร่งขนาดใหญ่ มีโอกาสพบเห็นสัตว์ป่าหลายชนิดลงมากินโป่งน้ำพุร้อน, คลองยัน เป็นลำน้ำที่มีเกาะแก่งและธรรมชาติของป่าดิบชื้นริมสองฝั่งน้ำสวยงาม สามารถล่องแก่งได้ตลอดทั้งปี, ลำน้ำคลองสระ เป็นอีกลำน้ำซึ่งสามารถล่องแก่งได้อย่างเพลิดเพลิน และตื่นเต้นตลอดเส้นทาง

นอกจากนี้ยังมีอุทยานแห่งชาติที่ใกล้อนุรักษ์ลอดจ์ และ อยู่ในจังหวัดสุราษฎร์ธานีอีก 4 แห่ง ซึ่งเราจะนำมาเล่าให้ทุกคนอ่านอีกครั้งในภายภาคหน้า

และสุดท้ายอย่าลืมแวะไปประทับตราอุทยานแห่งชาติ ณ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวด้วยนะครับ หรือถ้าใครอยากได้ “Passport อุทยาน” แบบนี้ ก็สามารถหาซื้อได้ที่อุทยานแห่งชาติได้ทุกแห่ง มาเก็บความประทับใจของแต่ละอุทยานแห่งชาติกันครับ!