เขาสก และ ภาคใต้ของประเทศไทย

อุทยานแห่งชาติเขาสก หรือ “ขุนเขาแห่งป่าฝน” ถูกจัดตั้งเป็นหนึ่งในอุทยานแห่งชาติของประเทศไทยตั้งแต่ปี 2523 มีพื้นที่อยู่ในอำเภอพนมและอำเภอบ้านตาขุน จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นพื้นที่ป่าดิบชื้นขนาดประมาณ 739 ตารางกิโลเมตร แบ่งเป็นพื้นที่ของเขื่อนเชี่ยวหลานหรือเขื่อนรัชชประภาประมาณ 165 ตารางกิโลเมตร ภายในอุทยานแห่งชาติเขาสกโอบล้อมไปด้วยวิวของเขาหินปูนที่สูงต่ำสลับกันอย่างสวยงาม  และบางช่วงของยอดเขามีความสูงกว่า 1,000 เมตร

อุทยานแห่งชาติเขาสก เป็น แหล่งที่อยู่ทางธรรมชาติที่เก่าแก่เทียบเท่าป่าฝนแอมะซอน มีความหลากหลายทางชีวภาพสูงมาก พบสัตว์ป่าสงวนถึง 4 ชนิด ได้แก่ เก้งหม้อ เลียงผา สมเสร็จ และแมวลายหินอ่อน จากการสำรวจพบกว่ายังมีสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมมากกว่า 48 สายพันธุ์ นก 311 สายพันธุ์ ค้างคาวกว่า 30 สายพันธุ์ สัตว์เลื้อยคลานและแมลงที่มีจำนวนสายพันธุ์มากมายจนนับไม่ถ้วน  รวมดอกไม้ป่ากว่า 200 สายพันพันธุ์ต่อเฮกตาร์ มีพันธุ์ไม้ป่าหายากเจริญเติบโตในพื้นที่ เช่น เอื้องฝาหอย มหาสดำ หมากพระราหู รองเท้านารีเหลืองกร และบัวผุด ถือได้ว่ามีความอุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมาก

ช่วง 2,500-1,300 ปีที่แล้ว

จากหลักฐานทางโบราณคดีแสดงให้เห็นว่า ขบวนคาราวานจากกรีกและโรมันได้เดินทางผ่านคอคอดกระ ส่วนที่แคบที่สุดของคาบสมุทรมลายูอยู่ในเขตจังหวัดระนองกับจังหวัดชุมพร ภาคใต้ของประเทศไทย ขบวนคาราวานได้เดินทางนำสินค้าจากฝั่งอันดามันไปยังฝั่งอ่าวไทย พบหลักฐานเป็นสิ่งประดิษฐ์ในยุคนั้นที่บริเวณเขาสก เช่น เครื่องปั้นดินเผาเปอร์เซีย เครื่องลายครามจีน เหรียญ และจารึกอินเดียโบราณ

ประมาณ พ.ศ.693 จังหวัดระนองเคยเป็นศูนย์รวมการค้าขายเครื่องเทศและสินค้าต่างๆ จากอินเดีย จีน ตะวันออกกลางและกระเทศฝั่งตะวันตก ทราบได้จากวัตถุโบราณต่างๆ ที่ถูกค้นพบนพื้นที่อำเภอกะเปอร์ของจังหวัดระนอง และอำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธาน้ ซึ่งค้นพบครั้งนี้มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์เป็นอย่างมาก เพราะได้ค้นพบเครื่องปั้นพระโพธิสัตว์ พระเครื่อง รวมถึงเหรียญเงินอาหรับด้วย

ปี 1800

ในช่วงการรุกรานพม่าของชายฝั่งทะเลอันดามันของไทยในศตวรรษที่ 18 เชื่อว่าในตอนนั้นชาวไทยที่อาศัยตามแนวชายฝั่งจำเป็นต้องอพยพไปยังเมืองตะกั่วป่าและไปยังเขาสก ซึ่งเป็นพื้นที่อุดมสมบูรณ์มีอาหารมากมาย เหมาะแก่การตั้งถิ่นฐานที่อยู่อาศัย จากข้อมุลพบว่าเริ่มมีการเพาะปลูก และทำไร่ทำสวนที่เขาสกในช่วงเวลานั้น

ปี 1970

ย้อนหลับไปในปี 1970 ครั้งมีเหตุประท้วงจากนักศึกษา และมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง นักศึกษาหลายชีวิตจากกรุงเทพได้หนีมายังเขาสกและอาศัยอยู่ในป่าลึกเพื่อหนีการจับกุมจากทหาร ในช่วงเวลานั้นเองก็มีการต่อต้านบริษัทข้ามชาติที่เข้ามาหาผลประโยชน์จากการตัดไม้ ป่าไม้จึงกลับมาฟื้นฟูและอุดมสมบูรณ์อีกครั้ง

ปี 1980 – 1987

ในปี 1980 เขาสกได้รับการแต่งตั้งให้เป็นอุทยานแห่งชาติ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ตัดสินใจสร้างเขื่อนในพื้นที่แห่งนี้เพื่อผลิตไฟฟ้าใช้สำหรับพื้นที่ภาคใต้ และสร้างเขื่อนจนสำเร็จภายในระยะเวลาสองปีให้หลัง

เขื่อนรัชชประภามีความสูง 94 เมตร มีความยาวสันเขื่อนประมาณ 700 เมตร กั้นน้ำจากคลองพระแสง จนก่อให้เกิดทะเลสาบขนาดใหญ่ 165 ตารางกิโลเมตร ชาวบ้าน 385 ครอบครัวและสัตว์ป่า 1,364 ตัวที่อยู่อาศัยในบริเวณนั้นทยอยได้รับการช่วยเหลือจากทางการในการอพยพไปยังพื้นที่อื่นๆ แต่อย่างไรก็ตาม จากการศึกษาในปี 1995 ก็พบว่าการสร้างเขื่อนครั้งนี้ทำให้ปลากว่า 52 สปีชี่สูญหายไปจากพื้นที่เพราะไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับแหล่งน้ำได้

เมื่อก่อนสร้างแล้วเสร็จ ก็ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระราชทานนามให้ใหม่ว่า “เขื่อนรัชชประภา”

About Khao Sok & Southern Thailand
About Khao Sok & Southern Thailand
About Khao Sok & Southern Thailand
About Khao Sok & Southern Thailand