เป็นที่ทราบกันดีว่าจังหวัดสุราษฎร์ธานีนั้นมีแหล่งท่องเที่ยวครบถ้วน ทั้งทะเล เกาะ ภูเขา ป่าไม้ เขื่อน ตัวเมือง หรือแม้แต่แหล่งท่องเที่ยวที่จะมาพูดถึงวันนี้ ถ้ำ
ทำไมถ้ำถึงเป็นที่น่าสนใจ? เพราะพื้นที่ภายในถ้ำสามารถอธิบายสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติได้นับย้อนเป็นระดับหลายล้านปี และเป็นหนึ่งในจุดพักอาศัยของมนุษย์มาช้านาน ทำให้การสำรวจถ้ำสามารถให้ความรู้ได้ทั้งทางวิทยาศาสตร์ของธรรมชาติ หรือด้านสังคมอย่างวัฒนธรรม หรือ ตำนานที่เกี่ยวข้อง ในจังหวัดสุราษฎร์ธานีนั้นก็มีถ้ำที่มีความเก่าแก่หรือตำนานต่างกันมากมายให้ไปชมกัน
เริ่มต้นด้วยดาวเด่นแห่งเขื่อนเชี่ยวหลาน อุทยานแห่งชาติเขาสก ถ้ำปะการัง เป็นเป็นแหล่งท่องเที่ยวลักษณะแบบเดียวกับ ถ้ำน้ำลอด หรือ ถ้ำทะลุ ซึ่งเป็นถ้ำที่มีน้ำไหลผ่านตลอดทั้งปี ภายในถ้ำมืดสนิท มีหินงอก หินย้อยซึ่งเกิดจากการตกตะกอนของน้ำหินปูน ที่เข้มข้นผสมกับความพิเศษของอากาศ รูปร่างคล้ายปะการัง แต่แม้จะมืด ด้านในกลับสะอาดมาก ไม่ค่อยมีกลิ่นอับหรือกลิ่นมูลค้างคาวเหมือนถ้ำอื่น ซึ่งชาวบ้านได้เล่าว่า ถ้ำแห่งนี้เคยอยู่ใต้ท้องทะเลมาก่อน หินภายในถ้ำจึงมีลักษณะคล้ายปะการัง นอกจากนี้ยังมีการค้นพบฟอสซิลของสัตว์เซลล์เดียวดึกดำบรรพ์ อายุประมาณ 250 – 400 ล้านปีอีกด้วย
ถ้ำประกายเพชร เป็นถ้ำที่มีความสวยงามแปลกตาอีกแห่งหนึ่งของเขื่อนรัชประภา อุทยานแห่งชาติเขาสก มีหินปะการัง หินงอก หินย้อย ทีมีเอกลักษณ์โดดเด่น ความยาวภายในถ้ำประมาณ 100 เมตร ภายในถ้ำจะมีหินที่สะท้อนแสงมีประกาย ทำให้ได้ชื่อถ้ำประกายเพชร ลักษณะหินย้อยที่นี่จะแปลกตาหน่อยจะเป็นหินย้อยเล็กๆคล้ายๆขนหรือรากแก้ว ส่วนพื้นถ้ำจะเปียกชื้นเป็นโคลนและลื่น จึงเป็นถ้ำที่เราไม่แนะนำให้เด็กและผู้สูงอายุที่ไม่พร้อมเข้าชมเท่าไร
ถ้ำแก้ว แห่งอุทยานแห่งชาติคลองพนมซึ่งอยู่ไม่ไกลกัน เป็นถ้ำขนาดใหญ่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 700 เมตร ภายในบรรจุคนได้หลายร้อยชีวิต ภายในแบ่งเป็น 4 ห้อง ประกอบด้วย ห้องเกล็ดแก้ว ห้องฤษี ห้องม้าน้ำ และห้องหม้อยา ลมพัดผ่านตลอดเวลา อุณหภูมิภายในถ้ำอยู่ประมาณ 18-24 องศา มีความชุ่มชื่นหยดน้ำที่มีแร่ธาตุต่างไหลผสมหยดลงมานับพันปีจนเกิดหินงอกหินย้อยที่สวยสดงดงามเป็นสีสัน และรูปร่างต่างๆ อย่างวิจิตรพิสดาร เป็นตามจินตนาการของผู้ที่เข้าไปพบเห็นยากที่จะปั้นแต่ง โดยเฉพาะม่านน้ำตก เมื่อใช้แสงไฟส่องไปจะเกิดประกายแสงแวววาวดุจแสงเพชร
ถ้ำขมิ้น หรือ ถ้ำเหม็น อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็น เป็นถ้ำที่เกิดในเทือกเขาหินปูน มีขนาดกว้างใหญ่มาก เกิดขึ้นมาเมื่อประมาณ 280 ล้านปี กระบวนการเกิดถ้ำขมิ้นเกิดขึ้นตามกระบวนการทางธรณีวิทยาที่ทำให้เกิดถ้ำทั่วไปคือเกิดการละลายของหินปูนเมื่อถูกน้ำที่ฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆแทรกตามแนวแตกที่ตัดผ่านชั้นหิน เมื่อการเวลาผ่านไปรอยแตกในเนื้อหินจะถูกกัดเซาะจนขยายตัวเป็นโพรงช่องวงใหญ่ขึ้นจนกลายเป็นถ้ำ และมีหินงอกหินย้อยที่สวยงาม นอกจากนี้แล้วภายในถ้ำ ยังเป็นที่อยู่อาศัยของค้างคาวจำนวนมาก และมีมูลค้างคาวจำนวนมาก จนเป็นที่มาของชื่อ ถ้ำเหม็น ในอดีตเคยเปิดสัมปทานให้มีการจัดเก็บมูลค้างคาวภายในถ้ำ เพื่อนำไปทำปุ๋ยฟอสเฟต ในปัจจุบันทางอุทยานได้จัดเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ภายในถ้ำเป็นระยะทาง 1,250 เมตร ซึ่งสามารถเข้าชมได้
หรือ วัดศก ถ้ำพันธุรัตน์ ชาวบ้านในพื้นที่มีความเชื่อกันว่าโพรงถํ้าภายในวัดแห่งนี้คือถํ้านางพันธุรัตน์ที่พระสังข์ได้มาซ่อนตัวอยู่ก่อนหนีไป และนางยักษ์ได้มาขาดใจตายใกล้กับบริเวณนี้ ที่วัดศกจะมีรูปปั้นจำลองของนางพันธุรัตน์และพระสังข์น้อยที่ยังไม่ถอดรูปเงาะไว้ที่ปากถํ้า ภายในมีพระประธานองค์ใหญ่ไว้ให้กราบไหว้ขอพร
นอกจากนี้ในเขตชุมชนหรือป่าในพื้นที่ต่างๆในจังหวัดยังมีถ้ำน้อยใหญ่อีกมากมายให้ไปสำรวจ เช่น ถ้ำน้ำลอด หนึ่งในจุดท่องเที่ยวของชุมชนบ้านถ้ำผึ้งที่เราอยากจะแนะนำให้คุณไปเยี่ยมชม เป็นถ้ำที่สามารถเดินทะลุจากด้านหนึ่งไปสู่อึกด้านหนึ่งได้ ระยะทางประมาณ 100 เมตร มีลำธารที่มีน้ำไหลตลอดทั้งปี
ถ้ำในจังหวัดสุราษฎร์ธานียังไม่ได้หมดแค่นี้ ยังมีการค้นพบถ้ำใหม่ๆในตลอดเวลา10ปีที่ผ่านมา ในป่าเขาของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่รอคุณมาสำรวจ